การแบ่งเวลาที่ดี ย่อมมีโอกาสมากกว่า เพราะเราจะได้ทำได้หลายอย่าง ได้ทั้งพัฒนาตัวเอง และได้รายได้ วันนี้สาระรีฟจะมาเล่าเรื่อง งานอบรม การตลาดออนไลน์ที่รับงานมาสัปดาห์นี้ เป็นสัปดาห์หฤโหดสุด ๆ โดยที่ งานอบรม จัดเทรนนิ่งให้กับผู้ฟัง ร่วม 200 คน ของกระทรวงอุดมศึกษา นั้นเป็นงานที่ติดต่อมาให้อบรมให้ผู้ร่วมอบรมในวันเวลาดังกล่าว แต่ดันตรงกับวันที่ภรรยาปวดท้องคลอดพอดิบพอดี ว่าแล้วจะทำยังไงดี?
ทางสาระรีฟเอง ได้รับมอบหมายให้อธิบายหลักการทำธุรกิจ สร้างแรงบรรดาลใจ ให้เยาวชนในพื้นที่ 3 จังหวัด โดยที่ตัวแทนจากแต่ละตำบล มาเข้าร่วม งานอบรม เพื่อที่สรรสร้างไอเดียในการ นำไปใช้ในชุมชนตัวเอง เพื่อให้เกิดธุรกิจ SMEs Otop หรือ Digital Startup ช่วงวันที่ 9 กรกฎาคม 2563 เวลา 09.00 – 16.00 น.
![งานอบรม รับงานอบรมออนไลน์ ด้วยประสบการณ์ระดับประเทศมากมาย](https://sararif.com/wp-content/uploads/2020/07/สาระรีฟ-รับงานอบรม-สัมนาธุรกิจดิจิทัล-และ-ออนไลน์-1024x769.jpg)
ประเด็นอยู่ที่ว่า งานดังกล่าว มีการติดต่อมาล่วงหน้าหลายสัปดาห์มาแล้ว ซึ่งจริง ๆ แล้วเป็นระยะเวลาที่ใกล้กับช่วงกำหนดคลอดของภรรยานิดหน่อย โดยที่ภรรยา ได้มีการนัดคลอดประมาณ 14 กรกฎาคม 2563 เลยคาดว่า งานที่รับมา น่าจะไม่กระทบกับวันเวลาดังกล่าว เลยได้ตอบรับไป ถ้าเกิดว่าไม่ได้มี การแบ่งเวลาให้ดี บอกเลยว่าลำบากเลย แต่เราสามารถบริหารจัดการเรื่องเล่านั้นได้
เกิดเรื่องไม่คาคคิด
แต่เรื่องตื่นเต้น กลับเกิดขึ้น เพราะ ภรรยาเกิดรู้สึกปวดท้อง คืนวันที่ 8 กรกฎาคม 2563 พอดิบ พอดีเลย คืนวันนั้นเลยได้พาไปหา หมอที่ฝากครรภ์ จนเริ่มรู้สึกได้ว่า น้องเริ่มจะถึงเวลาคลอดแล้วแหละ ซึ่งจริง ๆ วันที่ 8 เป็นต้นไป เป็นช่วงที่สามารถคลอดน้องออกมาได้แล้ว แต่เวลานัดจริง ๆ คือวันที่ 14 กรกฎาคม 2563 นู่นแหน่ะ
ผมเลยกังวลว่า เอาไงดี จะยกเลิกงานสัมนาที่ทางเจ้าของงานได้ เตรียมห้องอบรมออนไลน์ผ่าน Google Meet พร้อมนัดแนะผู้ร่วมอบรม เกือบ 200 คนใว้เรียบร้อยแล้ว ถ้าจะยกเลิกคืนวันนั้น ก็ไม่น่าจะทัน เพราะคนตั้ง 200 กว่าคน จะแจ้งครบได้ยังไง เลยมานั่งคิดว่า จะทำยังไงกับปัญหานี้ดีเนี่ย?
ภรรยา เองได้มาพูดกับตัวผมว่า ยกเลิกได้ไหม ไม่ไหวแล้ว ถ้าจะต้องรอวันว่าง เพราะปวดท้อง คิดว่าวันที่ 9 กรกฎาคม 2563 น่าจะคลอดโดยใช้วิธีผ่าคลอดแล้วแหละ (ทางผมเองมี ลูกคนแรกอายุประมาณ 1 ขวบ ก็ใช้วิธีผ่าเหมือนกัน)
โดยทางคุณหมอเอง ก็ไม่ค่อยจะแนะนำให้ใช้วิธีคลอดธรรมชาติเท่าใหร่ เพราะคนแรกใช้วิธีผ่า แถมคนที่สอง ก็ห่างกันไม่มากเลย (หัวปี ท้ายปี) เลยมีโอกาสเสี่ยงสูง
คิดวิธี ว่าจะทำยังไงดี?
คืนวันนั้น เลยมานั่งคุยกับ ครอบครัวของภรรยา ว่าจะเอายังไงดี คิดว่าตอนเช้า น่าจะต้องไป โรงพยาบาลแล้วแหละ เพื่อทำการคลอดน้องคนที่ 2 แต่ประเด็นคือ ทางผมเอง มีคิวบรรยาย 9.00 – 16.00 ในวันนั้นพอดี แล้วจะจัดสรรกันยังไง จะยกเลิกก็ไม่ได้ ภรรยาจะไม่ดูแลเรื่องคลอดก็ไม่ได้เช่นเดียวกัน T-T
ผลสรุปเลย ได้มาว่า ถ้างั้น เราจะออกรถกัน 7.00 ตอนเช้า เพื่อไปโรงพยาบาล แล้วเข้าห้อง เพื่อทำการเตรียมตัวผ่าคลอด โดยจะให้น้องสาวของภรรยา ตามมาสมทบช่วง 08.30 เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่คุณหมอ และพยาบาล ในเรื่องเอกสาร หรือ อุปกรณ์จำเป็นต้องใช้ต่าง ๆ แทนผม
โดยทางผมจะเซ็นเอกสารยินยอมการผ่าคลอดก่อนที่จะไป บรรยายงานสัมนาดังกล่าวให้เรียบร้อย ก่อนที่น้องสาวของ ภรรยา จะมารับช่วงดูแลให้ต่อ
เริ่มตามแผนที่วางใว้
รุ่งเช้า ทางผมเตรียมตัวอาบน้ำกันตั้งแต่ 05.00 โดยคืนนั้นไม่ค่อยได้นอนเท่าใหร่นัก เพราะภรรยา ปวดท้องทั้งคืน เลยต้องอยู่ให้กำลังใจเป็นเพื่อน งีบหลับบ้างเป็นช่วง ๆ แต่โดยรวมตื่นมาก็ยังเพลียนั่นแหละ ฮาๆๆ
ประมาณ ช่วง 06.45 ก็เริ่มเอาของจำเป็นจัดใส่รถยนต์ แล้วพาภรรยาไป โรงพยาบาลตามที่วางแผนกันใว้ โดยทางผมเองก็พก ข้าวเหนียวไก่ เผื่อได้ทานระหว่าง หมอเตรียมตัวภรรยาเข้าห้องคลอด ก็ได้อาจจะพอมีโอกาสได้ทานได้ เพราะรู้ตัวว่า ถ้าไม่ทานอะไรตอนเช้า แถมมีอบรมทั้งวัน ตายแน่
โดยสถานที่คิดใว้คร่าว ๆ น่าจะเป็นร้านกาแฟ ที่อยู่หน้า โรงพยาบาลยะลา จะได้มีอะไร ฉุกเฉิน ได้เก็บคอมวิ่งเข้า โรงพยาบาลได้เลย กรณีที่น้องสาวภรรยา แจ้งเรื่องมาฉุกเฉิน
เวลา 07.15 น. ทางผมและภรรยา ก็มาถึงโรงพยาบาล ก็เลยได้เข้าสู่ขั้นตอนการเตรียมตัวต่อไป ส่วนทางผม ก็เปิดคอมมาโซโล่ ปั่นสไลด์ที่จะใช้ในการบรรยายช่วง 9.00 กันต่อ (แบบว่า เวลาทุกวินาที มีค่าสุด ๆ)
![งานอบรม รับงานอบรมออนไลน์ ด้วยประสบการณ์ระดับประเทศมากมาย](https://sararif.com/wp-content/uploads/2020/07/สาระรีฟ-รับงานอบรม-สัมนาธุรกิจดิจิทัล-และ-ออนไลน์-มาโรงพยาบาล-1.jpg)
พอภรรยาเริ่มเข้าห้องคลอด ทางผมเองก็เลยนั่งรอหน้าห้องคลอด เพื่อรอน้องสาวภรรยามาถึง จะได้นัดแนะ พร้อมแจ้งรายละเอียดต่าง ๆ ให้น้องสาวภรรยาได้รับทราบก่อน ซึ่งตอนนั้นเวลา 08.30 แล้ว ใกล้ช่วงบรรยายเต็มที เลยใช้โอกาสที่รอ โซโล่ ข้าวเหนียวไก่ตอนนั้นเลย กินไปติดคอไป 555+
เมื่อน้องสาวภรรยา เริ่มมาถึง โรงพยาบาล เลยได้ชี้แจงข้อมูลต่าง ๆ ก็ได้ขอตัวไป เตรียมตัวสอนบรรยาย ตามเวลาที่นัดแนะใว้ ก็เลยต้องวิ่งจากโรงพยาบาลไปร้านกาแฟ ที่ใกล้ที่สุด ซึ่งทางผมเลือกที่จะนั่งร้าน Amazon ตรงข้ามหน้า โรงพยาบาลยะลา
เพราะทางผมคิดว่า อินเทอร์เน็ตที่นั่นเร็ว แถมมีจำนวนชั่วโมงในการใช้อยู่ที่ 4 ชั่วโมง คือ 3 ชั่วโมงจากบัตร blue Card และอีก 1 ชั่วโมงจากใบเสร็จค่าน้ำ เลยคิดว่าที่นี้แหละ ปลอดภัยในการบรรยายออนไลน์สุด ๆ แล้วแหละ
![งานอบรม รับงานอบรมออนไลน์ ด้วยประสบการณ์ระดับประเทศมากมาย](https://sararif.com/wp-content/uploads/2020/07/สาระรีฟ-รับงานอบรม-สัมนาธุรกิจดิจิทัล-และ-ออนไลน์-เริ่มบรรยาย-1024x768.jpg)
หมดช่วงบรรยาย ภาคเช้า
พอบรรยายเสร็จช่วงครึ่งเช้า เวลา 09.00 – 12.00 ก็เลยมีเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที ในการแว๊ปไปดูภรรยาสักนิด ซึ่งตอนเริ่มบรรยายได้ไม่กี่นาที ก็ได้รับข่าวจากน้องสาวภรรยา แจ้งว่า น้องคลอดแล้ว เวลา 08.57 เลยแบบเอ้ย เร็วจัง เพิ่งเข้าห้องเอง
ตอนนั้นเลยต้องเก็บอาการดีใจ ความกังวล และคำถามต่าง ๆ ในใจใว้ก่อน จะได้มีสมาธิในการบรรยายให้ดีที่สุดตามที่ได้รับมอบหมายใว้ ซึ่งพอบรรยายเสร็จ ก็รีบเก็บคอมพิวเตอร์ วิ่งไปห้องคนไข้รวมทันที ซึ่งทางผมเอง ลืมแจ้งห้องคลอดว่า จะเอาห้องพิเศษ (ห้องส่วนตัว) เลยกลายเป็ยคลอดเสร็จ คุณหมอเลยต้องเข็นรถเข็น พร้อมรถเข็นน้องมาที่ห้องรวมสำหรับคนที่เพิ่งคลอด
พอมาถึง โรงพยาบาล สิ่งแรกคือ เตียงของภรรยา อยู่ที่ใหนเนี่ย ห้องคนคลอดรวมอยู่ตรงใหน ชั้นใหน แล้วไปทางใหน อารมณ์แบบมีเวลาแค่ 1 ชั่วโมง 30 นาที เลยต้องรีบไปให้เร็วที่สุด ไม่งั้นไม่ทันมาบรรยายรอบบ่ายแน่นอน
สรุปแล้วก็วิ่งมาพบลูกชายตัวน้อย นอนอยู่บนเตียง เลยแช๊ะ สัก 1 ภาพ จะได้บอกทุกคนว่า น้องคนที่ 2 คลอดแล้วน้า ครอบครัวของผมเองจะได้รับทราบด้วย เพราะเวลาในการบอกทีละคนไม่มีจริง ๆ เพราะต้องเตรียมบรรยายรอบบ่ายต่อนั่นเอง
![งานอบรม รับงานอบรมออนไลน์ ด้วยประสบการณ์ระดับประเทศมากมาย](https://sararif.com/wp-content/uploads/2020/07/สาระรีฟ-รับงานอบรม-สัมนาธุรกิจดิจิทัล-และ-ออนไลน์-มาดูลูกตอนพักเที่ยง-1024x769.jpg)
เริ่มช่วงบรรยาย ภาคบ่าย
พอใกล้ช่วงเวลาบรรยายช่วงบ่าย เลยสองจิต สองใจว่าจะไปบรรยายร้านกาแฟต่อดี หรือจะหาที่ใกล้ ๆ บรรยาย ซึ่งแบตเตอร์รี่คอมพิวเตอร์มี 100% (จากการชาร์ทที่ร้านกาแฟ) แต่มือถือเหลือ 23% (ลืมชาร์ทมือถือซะงั้น)
เลยแบบว่า ถ้าเอาใกล้ ๆ จะบรรยายได้ไม่นานแน่นอน เพราะต้องแชร์ 3G จากมือถือ แถมภรรยาเองก็ไม่อยากให้ไปใกล ๆ เผื่อเวลามีอะไร จะได้เรียกได้ เพราะน้องสาวภรรยา ว่างอยู่แค่ถึงบ่าย แล้วคนทางบ้านก็ยังมาไม่ถึงอีก เลยจะไปร้านกาแฟอีกรอบ คงไม่ได้แน่เลย เพราะภรรยาอยู่กับน้อง 2 คนไม่มีคนคอยดูเลย T-T
ทางผมเลยตัดสินใจ หาปลั๊กว่าที่ใหนมีบ้าง ที่ใกล้ที่สุดกับห้องพักที่ภรรยาอยู่ เลยเดินออกจากห้องรวม ซึ่งจะมีเตียงคนไข้ข้างนอกเหมือนกัน โดยแต่ละเตียงจะมีปลั๊กไฟประจำเตียงอยู่ แล้วมีอยู่โซนหนึ่ง ที่เตียงดันว่าง ไม่มีคนไข้
เลยตัดสินใจ เอาวะ! ที่นี้ก็ได้ สอนกันในโรงพยาบาล หน้าห้องคนไข้รวมนี้แหละ แต่ดีเตียงคนไข้ดังกล่าว หลบมุม เลยไม่ได้อยู่ในที่คนเดินพลุกพล่าน (อะไรจะเหมาะเจาะ ขนาดน๊าน) การสอนครั้งนี้คงไม่มีใครมาขัดแน่นอน
![งานอบรมรับงานอบรมออนไลน์ ด้วยประสบการณ์ระดับประเทศมากมาย](https://sararif.com/wp-content/uploads/2020/07/สาระรีฟ-รับงานอบรม-สัมนาธุรกิจดิจิทัล-และ-ออนไลน์-สอนหน้าห้องคนไข้-768x1024.jpg)
สุดท้าย ทางผมก็บรรยาย พร้อมเวิร์คช้อปให้ผู้ร่วมอบรมร่วมกว่า 200 คนในการทำ Business Model Canvas พร้อมตัวอย่างที่เตรียมมาเยอะแยะ ให้ผู้ฟัง เสร็จสิ้น ทุกคนต่างก็ร่วมแสดงความยินดี หลังจากที่ได้รู้ว่า ทางผมเองเพิ่งได้น้องใหม่วันนี้ ทุกคนเลยแสดงความขอบคุณที่สละเวลานำเสนอ เนื้อหาในการสร้างโอกาสให้กับทุกคน งานวันนี้ผมเลยผ่านไปได้ด้วยดี ทางผมเลยต้องขอบคุณผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคนที่ช่วยทำให้ ทุกอย่างสามารถผ่านได้ด้วยดีได้ ไม่งั้นทั้งงาน ทั้งการคลอด อาจจะล้มไม่เป็นท่าก็เป็นได้ครับ
สำหรับหัวข้อเกี่ยวที่น่าสนใจ สามารถอ่านเพิ่มเติมกันได้นะครับ
- ผู้นำในยุค New Normal ต้องเตรียมอะไรบ้าง
- พอเพียงใช้เท่าที่มี อย่าเป็น “หนี้” จนเกินตัว
- มนุษย์เป็ด ทำได้หลายอย่าง แต่ไม่สุดสักทาง
- New Normal คืออะไร แล้ว Covid-19 เกี่ยวอะไร
- ธุรกิจแมลงสาบ (Cockroach Business) คืออะไร
ช่องทางติดตามผลงาน
ติดตามผลงานช่องทางต่างๆ ได้
Facebook: https://www.facebook.com/sararifmkt
Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCUt1RPFDIOaFnrogwZHi34Q
Tiktok : https://www.tiktok.com/@sararifmkt
Line : https://lin.ee/3KWTirDxI
Website : https://www.sararif.com