Genius Academy มาวันที่ 3 กันแล้ว กับหลักสูตรที่เรียนแบบหฤโหด 09.00 – 19.00 พร้อมทำข้อสอบเลือกสายโค๊ชกันอีกโดยเปิดทำข้อสอบในช่วง 19.00 น ซึ่ง 2 วันก่อนหน้านี้ที่ว่าเนื้อหาก็สุดยอดแล้วนะ วันนี้ก็ไม่แพ้กัน ที่โค๊ชหลักทั้ง 2 ท่านมาปล่อยของกัน ทั้งเรื่องการปรับเปลี่ยนองค์กรให้ทันกับเทรนด์ความต้องการ และ การนำข้อมูลมาใช้ในการต่อยอดกิจการ พร้อมทางเซสชันพิเศษที่ คอร์สนี้ขนทัพของพาร์ทเนอร์โครงการมาแบ่งปันวิธีการทำตลาดสินค้าแบบซุปเปอร์อินไซท์มากๆ ว่าแล้วจะมีอะไรกันบ้าง เรามาติดตามกันครับ
สำหรับคนที่เพิ่งเห็นบทความนี้ สาระรีฟ แนะนำไปอ่านอีก 2 วันก่อนหน้าได้ที่นี้เลยครับ เผื่อท่านอยากจะทราบว่า เนื้อหาทั้ง 2 วันที่ผ่านมาเขาสอนอะไรกัน ซึ่งสาระรีฟได้ทำสรุปใว้แล้วให้ทุกท่านได้มาตามว่า ในโครงการที่กิจการบอกว่า สอบเข้ายากมาก ทำไมถึงสอบเข้ายาก โครงการมีอะไรดี คนถึงแห่กันเข้ามาสอบแข่งขันกัน
ช่วงเช้า (09.00 – 12.00)
สำหรับช่วงเช้า กิจการทั้ง 180 ท่านได้พบกับอาจารย์ ดร ณัฐนรินทร์ เนียมประดิษฐ์ (โค้ชณัฐ) ผู้เชี่ยวชาญด้านการทำ Business Transformation เป็นทั้งที่ปรึกษาของบริษัทใหญ่มากมาย ซึ่งโค๊ชณัฐ ได้นำกรณีศึกษาหลายอย่างมาให้กิจการดู เช่น Netflix Vs. Blockbuster , Iphone Vs. Black Burry เป็นต้น
โค้ชณัฐยังให้ข้อมูลกับกิจการอีกว่าการทำ Business Transformation นั้นสำคัญกับกิจการ เพราะจะช่วยให้กิจการสามารถปรับตัวกับความต้องการของลูกค้า ที่มีความต้องการมากขึ้นตลอดเวลาได้ทัน เพราะไม่งั้นกิจการเราอาจจะเป็นสิ่งที่ล้าสมัย จนลูกค้าเปลี่ยนใจไปใช้สินค้าหรือบริการจากที่อื่นแทน ที่เขาสร้างความอำนวยความสะดวกได้มากกว่า
หัวข้อที่อาจารย์ณัฐเอามาให้เห็นถึงวิธีการทำ Business Transformation นั้นจะมีอยู่หลายรูปแบบ ซึ่งสาระรีฟจะสรุปให้ทุกท่านได้มาอ่านกันว่าสามารถทำอย่างไรได้บ้าง เผื่อท่านที่อ่านจะได้นำไปใช้ในองค์กรของท่านได้ง่ายขึ้นครับ
- Transformation ส่วนนี้จะบอกถึงทำไมเราถึงต้องปรับเปลี่ยน ซึ่งอาจจะเพราะยอดขายลด ตลาดเปลี่ยน เทคโนโลยีเปลี่ยน สิ่งนี้จะทำให้เราได้รู้ว่า กิจการเราเองก็ต้องเปลี่ยนเช่นกัน
- Organization Transformation สำหรับส่วนนี้จะเป็นการปรับเปลี่ยนโครงสร้างขององค์กรเลย เช่น Kodak แต่เดิมอาจจะทำฟีล์ม แต่เปลี่ยนมาลงทุนวัคซีนเป็นต้น
- Management Transformation บางกิจการอาจจะต้องการเปลี่ยนแค่การทำงานข้างใน เช่น แผนกที่ใช้เทคโนโลยีแทนคน ก็อาจจะปรับเปลี่ยนการทำงานภายในแทนให้ยืดหยุ่นขึ้น
- Cultural Transformation ในหลายครั้งการบริหารในองค์กรดีอยู่แล้ว แต่วัฒนธรรมองค์กรที่ทำอยู่อาจจะไม่ตอบโจทย์ เช่น สมมติจะทำอะไรสักอย่างต้องส่งเรื่องให้ผู้จัดการ เพื่อเข้าประชุมกับผู้บริหาร แล้วกว่าจะเริ่มทำก็เสียเวลาไปเยอะ วัฒนธรรมองค์กรแบบนี้อาจจะทำให้เราเปลี่ยนแปลงไม่ทันตลาด
- Information Systems Transformation การปรับเปลี่ยนระบบการจัดเก้บข้อมูลเองก็จะเป็นส่วนหนึ่งเช่นกัน เช่น แต่เดิม จะเข้าทำงานต้องตอกบัตร ก็อาจจะเปลี่ยนมาเป็นรูปแบบสแกนนิ้ว เพื่อให้ระบบเก็บเร็วขึ้น ประมวลผลก็สะดวกยิ่งขึ้น
- Transformation of Business Process ส่วนสุดท้ายจะเป็นการปรับเปลี่ยนขั้นตอนการทำงาน เช่น จะทำงานสักอย่าง ต้องมีขั้น 1, 2, 3, 4, 5 การที่ใช้เทคโนโลยีอาจจะทำให้เหลือขั้นตอนแค่ 1, 3, 5 ก็เป็นไปได้ ก็จะช่วยให้งานที่เคยทำประหยัดเวลาขึ้น สามารถไปทำอย่างอื่นที่มีประโยชน์มากกว่า
ช่วงบ่าย (13.00 – 16.00)
ในช่วงบ่ายก็จะมี พาร์ทเนอร์ของโครงการ GA3 ที่เข้ามานำเสนอบริการและวิธีการทำตลาดในแต่ละบริบทต่างๆ โดยกิจการที่เข้ามาให้ไอเดียการทำตลาดในแต่ละแบบจะมีอยู่หลากหลายกิจการ ทำให้กิจการสามารถเห็นภาพรวมมากขึ้น อีกทั้งยังสามารถติดต่อพาร์ทเนอร์ในการช่วยดันสินค้าและบริการของตนให้ทำตลาดได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ว่าแล้วมีใครกันบ้างละ เดี๋ยวสาระรีฟจะมาให้ทุกท่านได้อ่านกันครับ
Lazada
กิจการแรกจะเป็น Lazada ที่จะมาบอกถึงวิธีการทำการตลาดบน Marketplace ว่าจะทำยังไงให้ลูกค้าชื่นชอบ และตัดสินใจซื้อสินค้าจากทางร้านที่เอาไปลงขาย ซึ่งสาระรีฟจะสรุปให้ทุกท่านได้เห็นภาพแบบคร่าวๆ ก็คือ เนื้อหาภายในต้องครบ รูปภาพต้องชัดเจน ยิ่งหากสินค้าเราครอบคลุมได้ที่ลูกค้าซื้อร้านเดียวจบก็จะช่วยให้ยอดขายดีขึ้นอีกด้วย
ร้านใบเมี่ยง
ต่อมาก็จะเป็นกิจการ ร้านใบเมี่ยง ร้านขายอาหารสุขภาพชื่อดัง ที่มีสาขาอยู่ในห้างสรรพสินค้าหลายแห่ง มาบอกถึงเทรนด์สินค้าเพื่อสุขภาพว่าตอนนี้ความต้องการของผู้บริโภคเป็นอย่างไร พร้อมทั้งให้คำชี้แนะกิจการว่า เวลาเราจะผลิตสินค้าและจะไปขายตามร้านค้าในห้าง กิจการต้องคำนึงถึงลูกค้าเป็นหลัก ไม่ใช่เพียงจะผลิตในสิ่งที่ตนเองทำเป็น เพราะไม่งั้นเวลาไปวางขายบนชั้นวาง หากขายไม่ได้ ร้านค้าเหล่านั้นเองก็ไม่อยากจะเอามาขายเท่าใหร่นัก ดังนั้นต้องมองลูกค้าเป็นหลักก่อน แล้วเราค่อยเอาสินค้ามาตอบสนองให้ตรงกับที่ลูกค้าต้องการ
China Fastway
กิจการถัดมาก็จะเป็น ผู้เชี่ยวชาญการทำตลาดจีน ที่มาเล่าว่าสินค้าประเภทใหนที่คนจีนนิยม และหากจะเริ่มทำธุรกิจในจีนจะเริ่มอย่างไร มีแพล๊ทฟอร์มอะไรบ้างที่คนจีนเป็นที่นิยม พร้อมกับพฤติกรรมการบริโภคของคนจีนว่าการที่เขาจะซื้อสินค้าสักชิ้นเขาตัดสินใจจากอะไร ซึ่งกิจการที่ต้องการต่อยอดไปที่จีนจะได้เห็นภาพว่า ก่อนจะไปนำขายสินค้าที่นั่น กิจการจะต้องแต่งตัวสินค้าอย่างไรบ้าง ตั้งราคาอย่างไร หากจะมีตัวแทนขายที่จีน ราคาส่วนแบ่งควรแบ่งกันที่สัดส่วนเท่าใหร่ถึงจะเหมาะสมที่ทั้งสองฝ่ายอยู่ได้
Grainey
สำหรับกิจการสุดท้าย จะเป้น รุ่นพี่ GA นั่นเอง ที่ประสบความสำเร็จจากการต่อยอดสินค้าทานเล่น ที่ทำจากธัญพืช ซึ่งเจ้าของกิจการได้เล่าถึงว่า สินค้าของเขาจัดจำหน่ายในร้านสะดวกซื้อ 7-11 เขาสามารถทำสินค้าชนิดใหม่ที่ตอบโจทย์กับกลุ่มตลาดโดยการสิ่งที่ร่ำเรียนในคลาสไปใช้ อีกทั้งสินค้าตัวนี้ ยังมีกลุ่มตลาดที่น่าสนใจที่หลายคนอาจจะคาดไม่ถึง ซึ่งก็คือกลุ่มเกมส์เมอร์
ว่าแต่กลุ่มนี้ เกี่ยวกันอย่างไร จริงๆ แล้วหากมองถึงพฤติกรรมของคนเล่นเกมส์ กลายเป็นว่าสินค้าของ Grainey ตอบโจทย์มาก ที่ถูกนิยมซื้อไปทานเล่นระหว่างเล่นเกมส์ สร้างยอดขายเป็นกอบเป็นกำ ในแบบที่คาดไม่ถึงว่ามีกลุ่มตลาดนี้อยู่
ช่วงเย็น (16.00 – 18.00)
ตกช่วงเย็น ผู้เชี่ยวชาญเจ้าของเพจ การตลาดวันละตอน ที่มียอดผู้ติดตามร่วมเกือบ 300,000 ผู้ซึ่งเป็นหนึ่งในโค๊ชของสาย B ที่มาแบ่งปันเรื่องการนำข้อมูลมาทำการตลาดและการตัดสินใจ โดยอาจารย์ณัฐพล ม่วงทำ (โค๊ชหนุ่ย) ที่มาเล่าถึงกรณีศึกษามากมายว่าการนำข้อมูลมาใช้ สามารถต่อยอดกิจการในมุมใหนได้บ้าง ซึ่งหัวข้อที่โค้ชหนุ่ย มาแบ่งปันมีอะไรกันบ้าง ตามมาอ่านกัน สาระรีฟจะสรุปเป็นหัวข้อให้ทุกท่านได้อ่านกันง่ายๆ
- Data Thinking ในส่วนนี้จะเป็นการผสานระหว่างกระบวนการคิดเชิงแก้ปัญหา (Design Thinking) และ การวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics) เพื่อใช้ในการดูว่า เราจะได้อะไรจากข้อมูลที่เอามาประมวลผล
- การเริ่มใช้ Data สำหรับส่วนนี้จะเป็นวิธีการเริ่ม โดยต้องมาจากกิจการต้องดูก่อนว่า เป้าหมายเราอยากได้อะไรจากข้อมูล และ ตอนนี้เรามีข้อมูลอะไรในมือ นั้นคือการที่กิจการจะรู้ว่าเราจะเริ่มยังไงจะได้ไม่ต้องใช้เวลามากในการวางแผนนำข้อมูลไปใช้
- Data Framework หัวข้อนี้จะบอกถึง ขั้นตอนของการทำข้อมูลในการตัดสินใจซึ่งจะมีอยู่ 5 ขั้นตอน ก็คือ การเก็บข้อมูล (Collect) การเตรียมข้อมูล (Prep) การออกแบบหน้าตาข้อมูล (Visaulize) การประมวลผล (Analytics) และ การได้ไอเดียจากข้อมูล (Idea)
- Case Study ส่วนที่สำคัญก็คือ มีใครบ้างล่ะที่เอาข้อมูลไปใช้ แล้วเข้าใช้ในบริบทใหน ยกตัวอย่างเช่น Application Delivery ที่เอาข้อมูลไปดูว่าคนชอบกินอะไร ก็จะไปต่อยอดช่วยเหลือร้านที่มีอยู่ในสถานที่นั้น เพิ่มเมนูที่ลูกค้าชอบสั่ง เพื่อให้ร้านนั้นเพิ่มยอดขายได้มากขึ้น
ช่วงแห่งการสอบเลือกกลุ่ม (19.00 – 20.00)
สุดท้ายของการเรียนสุดหฤโหดวันนี้ ก็คือกิจการทั้ง 180 ท่านจะต้องทำข้อสอบ เพื่อให้โค๊ชแต่ละสายตรวจข้อสอบ ในการเลือกว่ากิจการแต่ละท่าน เหมาะกับการเข้ากลุ่มใหน ซึ่งข้อสอบจะเป็นข้อสอบเขียน 3 ข้อ เพื่ออธิบายถึงสิ่งที่โค๊ชแต่ละท่านอยากทราบในแต่ละมุมมอง โดยผู้ทำข้อสอบจะไม่ทราบว่า ข้อใหนเป็นของโค๊ชใหน (แต่จริงๆ ก็พอเดาได้ว่าข้อสอบข้อใหนเป็นของสายใหน)
ส่วนใครจะได้อยู่สายใหน ก็อยู่ที่โค้ชแต่ละท่านจะตรวจข้อสอบ ซึ่งคาดว่า ทุกท่านคงไม่ได้นอนกันแน่นอน เพราะวันพรุ่งนี้เช้า จะต้องประกาศว่า ใครอยู่กลุ่มใหน แปลว่าโค้ชแต่ละท่านจะต้องไปตรวจข้อสอบทั้ง 180 ท่านและให้คะแนน พร้อมคัดเลือกว่ากิจการใหนที่ควรอยู่ในสายนั้นนั่นเอง โดยก่อนจะมีการประกาศ ในข้อสอบก็มีให้กิจการเลือกโค้ชในใจก่อนล่วงหน้าไปอีกรอบ ส่วนจะได้โค้ชที่อยากได้ไหม ก็รอผลวันถัดไปกัน สุดท้ายวันถัดไปจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น ก็รอตามอ่านบทความกันนะครับ
หัวข้อทั้งหมดที่กล่าวมาทั้งหมดก็จะเป็นหลักสูตรวันที่ 3 ของ GA3 ที่เหล่าโค๊ชทุกท่านมาแบ่งปัน เป็นยังไงกันบ้างครับ เนื้อหาเจ๋งไหม ถ้าคิดว่าเจ๋งปีหน้าเปิดรับสมัคร ก็ลองสมัครกัน ได้ไม่ได้อีกเรื่องหนึ่ง แต่การไม่สมัคร คือการที่เราแพ้ตั้งแต่ความคิดเลย ลองดู ไม่มีอะไรให้เสียหายอยู่แล้วครับ สำหรับวันถัดไปมีอะไรอีกบ้าง ก็ติดตามสาระรีฟในเพจ หรือ ตามอ่านในนี้ได้เลยนะครับ เดี๋ยวจะเอามสรุปให้ทุกท่านได้อ่านกัน
ติดตามหัวข้ออื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่นี้ได้ต่อเลยนะครับ
- ปี 2021 จะปรับตัวธุรกิจอย่างไรดี
- สร้างธุรกิจให้เติบโต ตอน กล้าแตกต่าง
- ธุรกิจเจ๊ง ถ้าไม่ระวัง 5 อย่างนี้
ช่องทางติดตามผลงาน
ติดตามผลงานช่องทางต่างๆ ได้
Facebook: https://www.facebook.com/sararifmkt
Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCUt1RPFDIOaFnrogwZHi34Q
Tiktok : https://www.tiktok.com/@sararifmkt
Line : https://lin.ee/3KWTirDxI
Website : https://www.sararif.com