การขายออนไลน์ หลายคนบอกว่าง่าย หลายคนก็บอกว่ายาก ขายไม่เป็น จะเริ่มอย่างไรดี จริง ๆ จะว่าไปหลายการขายออนไลน์ก็มีหลายปัจจัยที่จะช่วยให้ขายดี ซึ่งในบทความนี้จะพูดถึง สินค้าดี ย่อมมีชัยไปกว่าครึ่งแล้ว
ส่วนตัวชารีฟ ได้มีโอกาสพบเจอผู้ประกอบการมาเยอะ จากการได้รับโอกาสจากหลาย ๆ หน่วยงาน ให้มาเป็นที่ปรึกษากิจการ หรือ บรรยายตามงานต่าง ๆ ขึ้นอยู่กับหัวข้อที่ทางผู้จัดกำหนดให้ ในแต่ละหัวข้อ ตาม คอนเสป ของงานนั้นๆ จึงทำให้ชารีฟได้มีโอกาสได้รับรู้รูปแบบของกิจการที่หลากหลาย เพื่อนำไปวิเคราะห์ ไปสู่การแนะนำ กลยุทธ์ต่าง ๆ แก่กิจการเหล่านั้น
จากประสบการณ์ของชารีฟนั้น (บางคนอาจจะมองเห็นต่างก็ได้นะครับ) การขายออนไลน์ จริงๆ ไม่ต่างกับการขาย ออฟไฟลน์เท่าใหร่นัก ทำไมหรอ? จะมาถกกันในนี้ครับ ก่อนจะมาขายออนไลน์ มาเกริ่นถึงพื้นฐานจาก 4P ก่อนเลย
1. PRODUCTS
Products หรือ สินค้า ส่วนนี้ต้องมาดูก่อนว่าสินค้าของคุณ คืออะไร? มีจุดเด่นอย่างไร? เราจะสร้าง Story อะไรได้บ้าง? จากสินค้าตัวนั้น สิ่งนี้สำคัญมากอันดับต้นเลย เพราะสินค้าแต่ละชิ้น ย่อมมีลูกค้าอยู่ ดังนั้น การที่เราเลือกสินค้ามาทำตลาด ต้องรู้ก่อนเลยว่าสินค้าเราใครน่าจะเป็นคนซื้อ ของต้องดี หรือ ไม่เน้นของดี (ซื้อแล้วทิ้ง) เพราะหากเราเริ่มจากการเลือกสินค้าแล้วนั้น ทุกอย่างถึงจะตามมา เพื่อจะเป็นตัวกำหนดในขั้นตอนต่อ ๆ ไปที่จะพูดถึงกันต่อนี้ มาในส่วนนี้หลายคนที่อ่านก็คงจะถามกัน หาสินค้าจากใหนกัน เบื้องต้นหาสินค้ารอบตัวมาลองขายก่อน แล้วมาดูว่าจะขายละแวกที่อยู่ หรือ ขายนอกบริเวณที่เราอยู่ก่อนดี เช่น อยู่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ สินค้าใกล้ตัวตอนนี้มี บูดู มาดูกันก่อนว่าจะขายคนใน 3 จังหวัด หรือ จะขายคนนอก 3 จังหวัดก่อนดี หากทำไปเรื่อย ๆ ค่อยหาวิธีการในการยกระดับประสิทธิภาพของสินค้า ให้มีลูกเล่น หรือ ต้นทุนที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ เราจะเริ่มเห็นว่าสินค้าเราจะไปได้อย่างไรครับ
2. PRICE
Price หรือ ราคา คราวนี้มาว่ากันในส่วนของราคากันต่อ สินค้าที่เราเอามาทำตลาดนั้น เราดีกว่าอย่างไร ตลาดขายกันเท่าใหร่ แล้วเราจะตั้งราคาเท่าใหร่ ตามกลุ่มลูกค้าที่เราเลือก ราคาที่เราตั้งจะได้ไม่สูง และไม่ต่ำจนเกินไป เพราะหากเราตั้งราคาได้ตรงกับกลุ่มลูกค้า ที่สนใจสินค้าเหล่านั้น บอกเลยครับ ว่าไม่มีคำว่า “แพง” เพราะตอนเกริ่นบอกใว้แล้วว่า “สินค้า” คือจุดเริ่มต้นของทุก ๆ. อย่างเลย
3. PLACE
Place หรือ สถานที่ในการนำเสนอขาย สำหรับสถานที่ขาย จะเป็นตัวสานต่อในส่วนของสินค้า และ ราคา ว่า ลูกค้าเราอยู่ที่ใด ตลาดออนไลน์ อยู่ตรงใหน ลูกค้าเราคือใคร เราจะได้เอาสินค้าเราไปอยู่ ณ จุด ที่ลูกค้าอยู่ เพื่อสานให้เกิดการขาย สำหรับสถานที่ขาย ชารีฟจะยกตัวอย่างนะครับ สินค้าบางตัว ตัวเดียวกัน บางตัวขายในห้างสรรพสินค้า บางตัวขายในร้านชำ ทำไมราคาถึงต่างกัน นอกจากต้นทุนด้านสถานที่แล้วนั้น กลุ่มเป้าหมายย่อมต่างกัน
4. PROMOTION
Promotion หรือ การส่งเสริมการตลาด อันนี้จะเป็นตัวกระตุ้นให้ลูกค้า อยากซื้อสินค้าเราง่ายขึ้น วางโครงสร้างกิจกรรมของสินค้าให้ดี ลูกค้าจะรู้สึกมีส่วนร่วมกับสินค้าเรามากขึ้น แต่กระนั้นโปรโมชั่นนี้ ก็เป็นดาบสองคม หากเราวางโครงสร้างกิจกรรมการตลาด ไม่ดีพอ ลูกค้าจะเข้ามาซื้อสินค้าเราเฉพาะตอนมีโปรโมชั่นเท่านั้น พอเราไม่ทำปุ๊บ ลูกค้าหายเลย
สำหรับชารีฟ การที่จะขายได้ มากน้อยนั้น ไม่สำคัญครับ ขึ้นอยู่กับ เราได้เรียนรู้ อะไรบ้างจากการขายสินค้านั้น ปรับปรุงอย่างไร ให้ลูกค้ารู้สึกประทับใจในสินค้า และกลับมาซื้อซ้ำ สิ่งที่เราต้องทำต่อยอดคือหากลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ เพื่อเพิ่มจำนวนการขาย แล้ววนกลับด้วยความรู้สึกเดิม ที่ลูกค้าก่อนหน้ารู้สึกกัน
ทำอย่างนี้ ต่อเนื่อง เราจะมีความรู้สึกว่า สินค้ามันเริ่มไปได้ ก็ค่อยหาช่องทาง เพิ่มโอกาสกันต่อไปครับ สุดท้ายเราจะพอมีพอกิน จากการค้าขายครับ ชารีฟขอให้ทุกคน เต็มที่กันนะครับ
ช่องทางติดตามผลงาน
ติดตามผลงานช่องทางต่างๆ ได้
Facebook: https://www.facebook.com/sararifmkt
Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCUt1RPFDIOaFnrogwZHi34Q
Tiktok : https://www.tiktok.com/@sararifmkt
Line : https://lin.ee/3KWTirDxI
Website : https://www.sararif.com